ศึกษาต่อต่างประเทศทุกระดับ ฟรีทุกขั้นตอน!
02 120 9646
094 512 6155
info@myadmissions.net
Updated 20. 01. 2021
3 mins read
วันนี้พี่ ๆ Myadmissions จะพามาทำความรู้จัก ข้อสอบ IELTS Speaking กันว่า มีพาร์ทอะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวยังไง พร้อมเทคนิคและตัวอย่างข้อสอบที่น้อง ๆ สามารถนำไปฝึกตามได้ไม่ยาก!
10 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนสอบ IELTS Speaking
1. การสอบ Speaking เป็นการสอบพูดกับเจ้าของภาษาตัวต่อตัวในห้องสอบ
2. ข้อสอบ Speaking สอบแบบเดียวกันหมดทั้ง IELTS Academic และ General Training
3. ถึงจะสอบ IELTS ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ก็ต้องสอบพูดตัวต่อตัวกับเจ้าของภาษาผ่านทางคอมพิวเตอร์
4. การสอบ IELTS speaking มีการบันทึก vdo ระหว่างสอบไว้ หากสงสัยเรื่องคะแนน น้อง ๆ สามารถขอตรวจสอบและดูย้อนหลังได้
5. การสอบ IELTS Speaking เป็นการสอบพูดแบบไม่เป็นทางการ (Informal)
6. ผู้ให้คะแนนพาร์ท Speaking คือเจ้าของภาษาคนที่เราสอบด้วย
7. IELTS Speaking ใช้เวลาสอบเพียง 11-14 นาที
8. เจ้าหน้าที่คุมสอบ เป็นผู้ควบคุมเวลาและความยาวในการพูดของเรา
9. IELTS Speaking มี 3 พาร์ท
10. เกณฑ์การให้คะแนน
ตัวอย่างหัวข้อและคำถาม IELTS Speaking (อัพเดท ปี 2020)
Part 1
เวลาสอบ 4-5 นาที
12 คำถาม จาก 3 หัวข้อ เกี่ยวกับตัวเรา
ตัวอย่างหัวข้อ
ตัวอย่างคำถาม
Part 2
ผู้สอบจะได้รับการ์ดที่มี Topic มาให้ โดยมีเวลา 1 นาทีในการเตรียมตัวพูดเกี่ยวกับหัวข้อที่ได้มา และต้องพูดประมาณ 1-2 นาที เมื่อได้หัวข้อมาแล้ว ให้รีบคิดให้เร็วที่สุด ผู้คุมสอบจะบอกว่าให้เริ่มพูดตอนไหน พยายามพูดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หัวข้อส่วนมาก จะเกี่ยวกับตัวเราหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา
ตัวอย่างหัวข้อ
ตัวอย่างโจทย์
สิ่งที่เราควรอธิบาย ในโจทย์ Describe a vocation you think is useful to society.
Part 3
พาร์ท Discussion 4-5 นาที
ในพาร์ทนี้ผู้คุมสอบจะถามเราเกี่ยวกับหัวข้อที่เราเพิ่งพูดไปในพาร์ทที่ 2 ซึ่งเราต้องอธิบายคำตอบของเราเพิ่มเติม พร้อมยกตัวอย่างให้ชัดเจน
ตัวอย่างคำถาม
Tips
1. อย่าจำคำตอบ ไปตอบ
อย่าจำคำตอบไปตอบ โดยเฉพาะพาร์ท 1 เพราะจะทำให้เราพูดไม่เป็นธรรมชาติ และผู้คุมสอบอาจตีความได้ว่าเราไม่สามารถสื่อสารได้ อาจทำให้เราโดนหักคะแนนไปง่าย ๆ
2. ห้ามใช้คำศัพท์ที่เราไม่คุ้นชินและไม่เคยใช้ อาจทำให้สื่อสารผิดพลาด
เราอาจจะอยากโชว์สกิลคำศัพท์สวย ๆ หรือประโยคซับซ้อน ให้ผู้คุมสอบเห็น แต่พี่ ๆ แนะนำให้เลี่ยงการใช้คำศัพท์หรือประโยคที่เราไม่คุ้นชินจะดีกว่า เพราะมีโอกาสสูงที่เราอาจสื่อสารผิด ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียง หรือใช้คำศัพท์ผิดบริบท และความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ก็อาจส่งผลกับคะแนนของเรา ดังนั้น เลี่ยงดีกว่าค่ะ
3. พยายามใช้ประโยคหลาย ๆ แบบ ทั้งแบบ Complex / Simple และใช้ให้ถูกต้อง
ลองใช้ประโยคหลาย ๆ แบบ หากอยากใช้ประโยคที่เราไม่คุ้นชินจริง ๆ ให้ลองพูดกับเพื่อนดูว่าเพื่อนเข้าใจเราหรือไม่ หรือลองพูดแล้วอัดวิดีโอเก็บไว้ดูว่าเราพูดผิดตรงไหนบ้าง จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ดังนั้น การฝึกพูดเกี่ยวกับเรื่องในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยใช้ Tense และโครงสร้างประโยคให้ถูกต้องนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ควรฝึกบ่อย ๆ ให้คุ้นชิน เวลาสอบจะได้พูดได้ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ
4. อย่ากังวลเรื่องสำเนียง
การสอบ Speaking เป็นการสอบตัวต่อตัว แน่นอนว่าเราอาจจะเขิน เกร็ง ทำให้ไม่ทันนึกถึงเรื่องสำเนียง แต่ผู้คุมสอบเข้าใจค่ะ ขอแค่เราสามารถสื่อสารให้เข้าใจได้ก็พอ ไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียง แต่ให้พยายามใช้เสียงต่ำ เสียงสูงในการพูด อย่าใช้เสียง Monotone เพราะภาษาอังกฤษคือภาษาที่ต้องเน้นเสียงหนัก-เบา ตั้งแต่ระดับคำไปจนถึงประโยค ดังนั้นการเน้นเสียงผิดหรือพูดเสียง monotone ก็อาจเปลี่ยนความหมายหรือเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารไปเลยก็ได้
5. ไม่ต้องรีบ หยุดคิดคำตอบก่อนก็ได้
การขอเวลาหยุดคิดคำตอบสักแปปหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ ระหว่างการสอบ Speaking เราสามารถขอเวลาคิดคำตอบกับผู้คุมสอบได้ โดยใช้ประโยคเหล่านี้
6. เลี่ยงการใช้คำฟุ่มเฟือย (Filler words)
หากนึกคำตอบไม่ออกจริง ๆ อย่าใช้คำฟุ่มเฟือย (Filler words) เช่น Like, You know, Ummm, Ahhh, Ehhh, Yeah เพราะจะทำให้ผู้คุมสอบเข้าใจว่าเราตอบคำถามไม่ได้ และไม่สามารถใช้ภาษาที่เหมาะสมได้อีกต่างหาก ดังนั้น ให้ใช้ประโยคที่แนะนำไปในข้อที่ 5 ดีกว่าค่ะ
7. อย่าถามคำตอบคำ ตอบให้เป็นประโยค พยายามอธิบายคำตอบของเราให้ได้มากที่สุด พร้อมยกตัวอย่างให้ชัดเจน
หากเราตอบคำถามสั้นเกินไป เช่น Yes, No, Ok แบบนี้ แสดงให้เห็นว่าเราไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อนั้น ๆ ได้ ถ้าผู้คุมสอบถามว่า Why? แสดงว่าเขาอยากได้เหตุผลและความเห็นของเราด้วย ดังนั้น เราต้องอธิบายคำตอบให้ชัดเจนนะคะ
8. การยิ้มช่วยให้มั่นใจ และสำเนียงดีขึ้น!
การยิ้มช่วยคลายความกังวล และสร้างความมั่นใจให้เราได้มากขึ้น และความมั่นใจก็ช่วยให้การออกเสียงของเราดีขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อเรายิ้ม ปากจะกว้างขึ้น ออกเสียงได้ชัดเจนและโทนเสียงก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นระหว่างสอบ ยิ้มเข้าไว้นะคะ
9. อย่าพูดด้วยน้ำเสียง monotone
การพูดด้วยเสียง monotone ไม่มีเสียงหนัก เบา ทำให้ผู้ฟังไม่รู้ว่าประโยคไหนสำคัญ และทำให้การสนทนาน่าเบื่อ ดังนั้น ให้เราพูดเน้นคำหรือประโยคที่สำคัญ และอย่าพูดรวดเดียวจบ เว้นจังหวะการพูดด้วย เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกอยากฟังและคุยกับเราต่ออย่างไม่น่าเบื่อ จำไว้ว่า
10. ฝึกอธิบายหัวข้อจากข้อสอบ IELTS หลาย ๆ หัวข้อ ตามที่แนะนำไป ยิ่งรู้หลายหัวข้อ ยิ่งทำให้เรามีข้อมูลไปคุยตอนสอบมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวล
หลังจากรู้จักข้อสอบ IELTS Speaking และได้เทคนิคการสอบไปแล้ว อย่าลืมไปฝึก IELTS Writing และพาร์ทอื่น ๆ ด้วยนะคะ จะได้ทำคะแนนได้ดีในทุก ๆ พาร์ท น้อง ๆ สามารถเข้าไปฝึกสกิล IELTS จาก 6 เว็บไซต์ ฟรี! เรียน IELTS ด้วยตัวเอง ได้เลยค่ะ นอกจากนี้ น้อง ๆ ยังสามารถฝึกสกิล IELTS ได้จากกิจกรรมอื่น ๆ ที่ชอบ ได้ด้วยนะคะ ยังไงก็แนะนำให้ฝึกบ่อย ๆ รับรองว่าการสอบ IELTS ให้ได้คะแนนที่หวังนั้น เป็นไปได้แน่นอนค่ะ
สนใจเรียนต่อต่างประเทศหรือขอคำปรึกษาฟรี! คลิก
ขอบคุณข้อมูลจาก IELTS Liz และ IELTS IDP
โดย Natcha Tunpoprasit
Content Specialist
Related articles
ให้คำปรึกษา แนะนำ
และสมัครเรียนต่อต่างประเทศ
บริการช่วยเหลือ
ด้านวีซ่า ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
ไปศึกษาต่อ
เราพร้อมดูแล
ตลอดหลักสูตร
2nd Floor, Asoke Towers Building, 219/2 Sukhumvit 21 Rd., Klongtoey Nua, Wattana, Bangkok 10110 Thailand